ช็อกโกแลตคือ ผลผลิตที่ได้จากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน (Tropical Cacao Tree) โดยเป็นส่วนผสมระหว่างเมล็ดโกโก้ กับเนยโกโก้หรือไขมันของเมล็ดโกโก้ ช็อกโกแลตมีหลากหลายรูปแบบและรสชาติ เช่น ช็อกโกแลตเหลวบริสสุทธิ์หรือช็อกโกแลตฝาด เป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีการเจือปนใด ๆ ช็อกโกแลตดำคือ ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนม ช็อกโกแลตนมคือ ช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือนมข้น ช็อกโกแลตหวานคือ ช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อยร้อยละ 15
ในช็อกโกแลต 100 กรัม มีสารฟีนิลเอทิลามีน (Phenylethylamine) อยู่มากถึง 660 มิลลิกรัม สารที่ทำหน้าที่กระตุ้นการหลั่งสารโดพามีน (Dopamine) และอะดรีนาลีน (Adrenaline) โดพามีนเป็นฮอร์โมนในสองที่หลั่งออกมาแล้วทำให้เกิดความสุขร่างกายกระฉับกระเฉง ส่วนอะครีนาลีนเป็นฮอร์โมนที่ทำให้น้ำตาลกลูโคสหลั่งเพิ่มขึ้นในกระแสเลือด ช่วยเร่งกายใช้พลังงานในร่างกาย เพิ่มความดันเลือดให้สูงขึ้น หัวใจเต้นแรง ช็อกโกแลตยังมีสารฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) ช่วยให้มีอารมณ์รื่นเริงสนุกสนาน ด้วยฤทธิ์ของสารเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่คนกินช็อกโกแลตจะมีอารมณ์รื่นเริงแจ่มใสกว่าปกติ
ช็อกโกแลตมีสารทีโอโบรไมน์ (Theobromine) สารรสขมที่มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งเอนดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขที่ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง มีความสุข มีกรดอะมิโนชื่อ ทริปโตเฟน ทำหน้าที่ควบคุมซีโรโทนิน (Serotonin) สารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์ เมื่อร่างกายขับซีโรโทนินออกมาช่วยให้ผ่อนคลายความกังวล ช็อกโกแลตยังมีกาเฟอีน (Caffeine) อยู่ในปริมาณเล็กน้อย ช่วยให้รู้สึกตื่นตัว มีสมาธิ และมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะอย่างอ่อน ๆ
มีรายงานระบุว่า เมื่อกินช็อกโกแลตดำประมาณครึ่งออนซ์ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของร่างกายจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 และค่าของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในเลือดจะลดลง อันเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ อีกทั้งสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลต ยังสามารถป้องกันเซลล์ของร่างกายไม่ให้ทำปฏิกิริยากับอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการในการเกิดโรคหัวใจได้ด้วยเช่นกัน ทั้งมีรายงานระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระในช็อกโกแลตสามารถป้องกันเซลล์จากความเสียหาย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการพัฒนาเซลล์มะเร็ง ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าช็อกโกแลตเป็นอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
งานวิจัยจากความร่วมมือของนักวิจัยชาวสกอตแลนด์และอิตาลีมีผลออกมาว่า ช็อกโกแลตดำมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าช็อกโกแลตนม เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า ทั้งระบุว่านมที่ผสมลงไปจะระงับสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในช็อกโกแลต และโปรตีนในนมจะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระได้อย่างเต็มที่ แต่ถึงแม้ว่าช็อกโกแลตจะมีประโยชน์เพียงไร การกินช็อกโกแลตในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจเป็นสาเหตุให้คอลเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น เป็นปัญหาในเรื่องน้ำหนักเกิน เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจและสาเหตุของโรคร้ายอีกหลายชนิด ผู้ชื่นชอบช็อกโกแลตจึงควรห้ามปากห้ามใจไม่ให้อร่อยเพลินจนเกินพอดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น