วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ลูกพลับ ที่มีประโยชน์ล้นเหลือ



พลับ ผลไม้ทรงกลมแป้น เปลือกเป็นมันเงา ผลอ่อนมีสีเขียวเนื้อกรอบ เมื่อสุกเนื้อจะนิ่มขึ้น เปลือกเปลี่ยนเป้นสีเหลืองอมส้มภายในมีเมล็ดหลายเมล็ด หากผ่ากลางผลตามขวางจะเห็นเมล็ดเรียงตัวกันเป็นรัศมีอย่างสวยงาม ชาวจีนถือว่าพลับเป็นผลไม้มงคล เพราะมีชื่อในภาษาจีนพ้องเสียงกับคำที่เป็นมงคล จึงนิยมมอบเป็นของขวัญให้กัน เพื่ออวยพรให้สมปรารถนา
พลับแบ่งเป็น 2 ชนิด คือพลับฝาด (Astringent Persimmon) และพลับหวาน (Non-Astringent Persimmon) พลับฝาดนั้นเมื่อผลยังไม่สักจะมีรสฝาด เพราะมีสารโพลีฟีนอลชนิดแทนนินสูง เมื่อกินเข้าไปแทนนินจะรวมตัวกับโปรตีนในปาก ทำให้รู้สึกแห้งในปาก จึงมักนำไปผ่านกระบวนการขจัดความฝาด ทำให้สารแทนนินเปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่ไม่ละลายน้ำก่อนกิน ซึ่งมีหลายวิธี เช่น บ่มด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือแช่ในน้ำปูนใส แต่เมื่อพลับฝาดสุกเต็มที่แล้ว ผลจะมีสีแดงส้ม เนื้อนิ่ม รสหวาน ส่วนพลับชนิดหวานจะมีรสหวานกรอบไม่ฝาด สามารถเก็บกินผลสดจากต้นได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารแทนนิน
ผลพลับสุกมีน้ำตาลธรรมชาติอย่างน้ำตาลกลูโคสและฟรักโทส ช่วยบำรุงร่างกายและให้พลังงาน มีวิตามินเอในรูปของแคโรทีนนอยด์สูง ช่วยบำรุงสายตาและทำให้ผิวแข็งแรง วิตามินซีช่วยต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน มีโพแทสเซียมสูงช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต มีแมกนีเซียมที่จำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท พลับยังมีเส้นใยอาหารสูง โดยเฉพาะบริเวณเปลือก จึงช่วยลดความในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้
การเก็บเกี่ยวผลพลับต้องระวังไม่ให้ผลช้ำหรือมีรอยตำหนิเพราะเชื้อราจะเข้าไปทำลายให้ผลเน่าหรือเสียหายได้ การกินพลับควรกินก่อนที่ผลจะสุกและเละเกินไป เพราะจะเสียกลิ่นและรสที่ดี และมีข้อควรระวังในการกินพลับสดคือ ไม่ควรกินขณะท้องว่าง เพราะเมื่อรวมตัวกับกรดในกระเพาะ อาจทำให้เกิดอาการอึดอัดท้องหรือคลื่นไส้
ส่วนการทำพลับแห้งนั้น สามารถใช้พลับฝาดมาแปรรูปได้ เพราะเมื่อผ่านการทำแห้งแล้วรสฝาดจะหายไป ผิวของพลับจะมีผงขาว ๆ เคลือบอยู่ ซึ่งก็คือน้ำตาลที่ตกผลึกออกมานั่นเอง พลับแห้งมีรสหวาน หอม นุ่มเหนียว นิยมกินเป็นของว่าง แม้ว่าวิตามินซีและสารโพลีฟีนอลจะลดลงหลังผ่านกระบวนการแปรรูป แต่พลับแห้งก็ยังคงมีเส้นใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุสูงกว่าผลสดในปริมาณที่เท่ากัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น